
หลายคนดีใจที่ตัวเอง “ถอดเหล็ก” ได้เสียที แต่กลับละเลยขั้นตอนสำคัญที่สุด นั่นคือ การใส่รีเทนเนอร์ (Retainer) ซึ่งจริง ๆ แล้วรีเทนเนอร์คือหัวใจที่จะทำให้ผลลัพธ์ของการจัดฟันอยู่กับเราได้นาน หากไม่ใส่ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ปัญหาต่าง ๆ อาจเกิดขึ้นได้
การจัดฟันคือการลงทุนที่ใช้ทั้งเวลา ความอดทน และค่าใช้จ่าย เพื่อให้ฟันเรียงสวย สบฟันเป็นระเบียบ และสร้างรอยยิ้มที่มั่นใจ แต่หลายคนมักละเลยขั้นตอนสำคัญหลังถอดเครื่องมือจัดฟัน นั่นคือ การใส่รีเทนเนอร์ (Retainer)
แท้จริงแล้วรีเทนเนอร์คืออุปกรณ์ที่ช่วย “ล็อกฟัน” ไว้ในตำแหน่งที่ถูกต้อง หากไม่ใส่อย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์ที่ได้จากการจัดฟันอาจถอยหลังกลับไป และนี่คือปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหากไม่ใส่รีเทนเนอร์
1. ฟันเคลื่อนกลับสู่ตำแหน่งเดิม
หลังการจัดฟัน กระดูกและเนื้อเยื่อรอบฟันยังไม่แข็งแรงพอ หากไม่มีรีเทนเนอร์คงสภาพ ฟันอาจค่อย ๆ เคลื่อนกลับไปยังตำแหน่งเดิมได้ง่าย โดยบางคนอาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในเวลาเพียงไม่กี่เดือน
2. ฟันซ้อนเกหรือไม่เรียงตัวเหมือนเดิม
แม้เพิ่งถอดเหล็ก ฟันจะเรียงตัวสวย แต่หากละเลยรีเทนเนอร์ ฟันหน้าอาจเริ่มซ้อนกัน ฟันบางซี่หมุน หรือเรียงไม่ตรง ซึ่งทำให้รอยยิ้มเสียสมดุลและดูไม่สวยเหมือนตอนถอดเครื่องมือใหม่ ๆ
3. การสบฟันผิดปกติกลับมา
ผู้ที่เคยมีปัญหาสบฟันลึก ฟันยื่น หรือฟันสบคร่อม หากไม่ใส่รีเทนเนอร์ อาจทำให้การสบฟันที่แก้ไขแล้วค่อย ๆ กลับมาผิดปกติอีกครั้ง ซึ่งอาจส่งผลต่อการบดเคี้ยวและสุขภาพช่องปากโดยรวม
4. ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายซ้ำ
เมื่อฟันเคลื่อนหรือซ้อนเกอย่างเห็นได้ชัด หลายคนจำเป็นต้องกลับมาจัดฟันใหม่อีกครั้ง ซึ่งหมายถึงการเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มโดยไม่จำเป็น
5. สูญเสียความมั่นใจในรอยยิ้ม
ฟันที่เคยเรียงสวยหลังจัดฟัน หากค่อย ๆ เปลี่ยนไปจนไม่เป็นระเบียบ อาจทำให้หลายคนรู้สึกกังวลและขาดความมั่นใจ โดยเฉพาะเมื่อต้องยิ้ม พูดคุย หรือทำงานที่ต้องพบเจอผู้คน
การใส่รีเทนเนอร์ไม่ใช่เรื่องทางเลือก แต่เป็น “ขั้นตอนบังคับ” ที่สำคัญไม่แพ้การจัดฟัน หากละเลย อาจทำให้ผลลัพธ์ที่ลงทุนไปหายไปอย่างน่าเสียดาย
👉 หากคุณเพิ่งถอดเครื่องมือจัดฟัน แนะนำให้ใส่รีเทนเนอร์ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ และเข้ารับการตรวจเช็กเป็นระยะ เพื่อรักษารอยยิ้มที่สวยและสุขภาพฟันที่ดีให้อยู่กับคุณไปนานที่สุด